🎯 ช่วยให้ทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
🎯 อาหารเดินทางเข้าสู่ระบบย่อยได้เร็ว
🎯 ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
🎯 เป็นฟองน้ำพองตัวทานอาหารน้อยลง อิ่มนานขึ้น
ยิ่งหากการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมร่วมกับการออกกำลังกายด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้การลดน้ำหนักได้ผลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในแต่ละวันเราควรได้รับอย่างน้อย 25-30 กรัม ซึ่งเป็นทางเลือกที่นักโภชนาการแนะนำเอาไว้
#ประโยชน์จากการรับประทานไฟเบอร์
📌1. ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดให้น้อยลงได้
📌2. เป็นยาระบาย ลดอาการท้องผูก สำหรับไฟเบอร์ชนิดที่ไม่ละลายน้ำจะเข้าไปทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกระตุ้นระบบขับถ่าย
📌3. ไฟเบอร์ชนิดที่ละลายได้ในน้ำ จะทำหน้าที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีประโยชน์กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ลดการใช้อินซูลิน และในกลุ่มคนปกติจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานได้ด้วย
📌4. การรับประทานไฟเบอร์จะทำให้เกิดกระบวนการ fermentation ที่เกิดขึ้นระหว่างเส้นใยอาหารกับลำไส้ใหญ่ หากเป็นไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จะช่วยย่อยให้ได้ออกมาเป็นกรดไขมันสายสั้น
📌5. ป้องกันการเกิดโรคริดสีดวง กระตุ้นการทำงานของลำไส้ให้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ป้องกันภาวะลำไส้เหี่ยว ซึ่งเกิดขึ้นจากส่วนของผนังลำไส้ใหญ่
#แหล่งอาหารที่มีไฟเบอร์หรือเส้นใยสูง ที่เราพบได้ประมาณ 3 กรัมต่อ 100 กรัม เช่น ข้าวกล้อง, เมล็ดธัญพืช, เม็ดแมงลัก, ถั่วเปลือกบางที่สามารถรับประทานได้ทั้งเปลือก, ผลไม้, ผักใบเขียว, ผักโขม, ถั่วเหลือง, กระเจี๊ยบเขียว, แครอท และถั่วเขียว เป็นต้น รองลงมากลุ่มอาหารที่มีเส้นใยไฟเบอร์อยู่ราว 1-3 กรัม ต่อ 100 กรัม เช่น น้อยหน่า, คะน้า, ข้าวโพดต้ม, พุทรา เป็นต้น